โรคหิด (Scabies) แค่ใกล้ชิดก็ติดต่อได้ทุกเพศทุกวัย
ท่านผู้อ่านหลายท่านอาจจะยังไม่เคยทราบว่า โรคหิด นั้นสามารถติดต่อกันได้แค่เพียงอยู่ใกล้กันเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องมีการหายใจหรือสัมผัสของเหลวในร่างกาย ซึ่งบางท่านติดโรคนี้มาแล้ว ยังไม่ทราบเลยว่าตนเองนั้นติดโรคนี้มา เพียงแค่รู้สึกมีอาการคัน ผื่นขึ้น วันนี้พวกเราทีมงาน บ้าน HG จะมาทำการแนะนำให้ทุกท่านร็จักกับโรคนี้แบบละเอียด ทั้งอาการ,แนวทางรักษา,สามารถหายเองได้ไหมหรือต้อง หาหมอ
โรคหิด คืออะไร ?
หิด เป็นโรคที่เกิดจากตัวไร ซึ่ง เป็นสัตว์ขาปล้องชื่อ ซาร์คอบติส สเคบิอาย Sarcoptes scabiei โดยตัวไรที่นำหิดมาติดเรานั้นมี 8 ขา สีน้ำตาล ไม่สามารถมองด้วยตาเปล่าได้ โดยอาการที่มากับโรค เช่น อาการคันนั้น เกิดจากที่ตัวไรตัวเมียทำการขุดเจาะผิวหนังเราเพื่อวางไข่โดยหลังจากนั้นประมาณ 2-3 วัน ตัวอ่อนของมันก็จะเริ่มออกมา และใช้เวลาเจริญเติบโตเต็มที่ประมาณ 2 สัปดาห์ โดยที่หลังทำการผสมพันธุ์หิดตัวผู้จะตายไปและหิดตัวเมียก็จะขุดหลุมวางไข่ใต้ผิวหนังต่อไป ถือเป็นวงจรชีวิตของสัตว์ชนิดนี้ โดยผู้ป่วยที่เป็นหิดจะมีตัวหิดอยู่ประมาณ 5-15 ตัวแต่ก็มีกรณียกเว้นเช่นผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือเป็น เป็นโรคเอดส์ เวลาเป็นอาจมีตัวหิดเป็นล้านๆ ตัวอยู่บนผิวหนัง
หิด สามารถติดต่อได้อย่างไร ?
หิดสามารถติดต่อได้โดยตรงจากการใกล้ชิดหรือมีการสัมผัสกับผู้ที่เป็นหิด เช่น การสัมผัสผิวหนัง,จับมือแขน,หรือใช้อุปกรณ์ร่วมกันเช่นผ้าปูที่นอน,หมอน,ผ้าห่ม โดยหิดสามารถติดต่อได้ง่ายและแพร่กระจายได้ไว มักพบแพร่กระจายในชุมชนแออัดหรือระบาดในชุมชนหรือครอบครัว โดยตัวหิดกระจายจากผู้หนึ่งไปอีกผู้หนึ่งได้ง่ายผ่านการสัมผัสเท่านั้น โดยอาการคันที่ตามมา มักจะเกิดหลังจากมีตัวหิดใต้ผิวหนังประมาณ 1 เดือน แต่ในกรณีที่ผู้ไหนเคยเป็นหิดมาก่อน แล้วเป็นซ้ำอาการคันจะเกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่กี่วัน ตัวไรชนิดนี้สามารถอยู่ใน สภาพแวดล้อมปกติได้ 2-3 วัน จึงมีโอกาสกลางๆที่จะสามารถติดหิดจากสิ่งของสื่อกลางเช่นการใช้เสื้อผ้าของใช้ ร่วมกันหรือนอนที่นอนเดียวกันเป็นต้น
การวินิจฉัย โรคหิด
โรคหิดวินิจฉัยโดย สอบถามอาการคัน สอบถามอาการของบุคคลใกล้ชิด ว่ามีใครมีอาการคันแบบเดียวกันไหม และอาจต้องทำการตรวจผิวหนังโดยมีการขูดเอาผิวหนังบางส่วนที่คาดว่าตัวหิดจะขุดลงไปเพื่อวางไข่ เพื่อนำมาส่งพิสูจน์ทางห้องปฏิบัติการ ส่องตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์
ลักษณะอาการ และ ผื่นของ โรคหิด
- ผื่นที่เกิดจากหิด จะมีอาการคันมากโดยเฉพาะอาการคันจะหนักเป็นพิเศษในเวลากลางคืน แทบนอนไม่ได้ ต้องเกาตลอด โดยอาการคันนี้จะมาหลังเกิดการติดประมาณ 2 สัปดาห์
- ลักษณะของผื่นที่เกิดจากหิดจากเป็นลักษณะตุ่มน้ำใสๆ หรือ ตุ่มแดงคัน โดยผื่นจะแพร่กระจายทั่ว โดยจะมีจุดที่พบอาการอยู่บ่อยครั้งเช่น ข้อพับแขน,ง่ามมือและเท้า,รักแร้,รอบสะดือ,ก้น และ อวัยวะเพศ โดยในเด็กสามารถพบผื่นนี้ได้บริเวณหัวหรือหน้า
- ผื่นของหิดบางชนิดอาจมีลักษณะ นูนสีแดงอมน้ำตาล มีอาการคัน มักพบตุ่มชนิดนี้ที่รักแร้ และ อวัยวะเพศ โดยเวลาขูดผิวหนังเพื่อนำไปส่องมักไม่พบตัวหิดจากผื่นแบบนี้ และ หลังรักษาหายแล้ว ผื่นอาจยังคงอยู่เป็นเหมือนแผลเป็นได้
- ในรายของผู้ป่วยที่เป็นโรคเอดส์ หรือ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือ ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ การแพร่กระจายของหิดจะสูงกว่าคนปกติอย่างคาดไม่ถึง ลักษณะผื่นจะเป็นสะเก็ดแห้งลักษณะเป็นขุยหนา โดยภายในขุยเหล่านี้มีหิดจำนวนมหาศาลอยู่ทำให้การแพร่กระจายเชื้อเป็นไปได้ง่ายกว่าเดิมมาก ผ็ป่วยชนิดนี้อาจมีตัวไรหิดเป็นล้านตัวอยู่ที่ผิวหนัง
การรักษาโรคหิด
ยากิน
- Ivermectin ทาน 200 ไมโครกรัม ต่อ น้ำหนักตัว 1กิโลกรัม รักษาหิดได้ดีผลค้างเคียงน้อย
- อาการคันของหิดอาจยังอยู่หลังจากที่รักษา การทานยาแก้คันควบคู่ไปด้วยสามารถบรรเทาอาการคันได้
- ถ้ามีการติดเชื้อแทรกซ้อน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอรับยาปฎิชีวะนะ ควบคู่ไปด้วย
ยาทา
ผลิตภัณฑ์รักษาหิด สามารถ กำจัดหิด,ลดอาการคัน,ลดผื่นและตุ่มที่เกิดจากหิดและโลนได้,ป้องกันการเกิดซ้ำ,บรรเทาอาการปวดแสบและแพ้จากการเกิดโรค วิธีใช้ อาบน้ำให้สะอาด และใช้ผ้าถูตามบริเวณที่มีอาการ และทายาให้ทั่วทิ้งไว้ 1 วัน แล้วจึงอาบน้ำ
*หมายเหตุ กรณีใช้ยาทาให้ผู้อื่นนั้น ผู้ทาควรสวมถุงมือยางในการทาและล้างมือทุกครั้งหลังทา
แนวทางการป้องกันหิด
ถ้าอยู่เป็นครอบครัว ควรทำการรักษาทั้งครอบครัวพร้อมๆกัน โดยเฉพาะผู้ที่อู่ใกล้ชิด ไม่มีอาการก็ต้องรักษาเพราะอาจอยู่ในระยะฟักตัวของหิด ทำความสะอาดของใช้ และ อุปกรณ์ต่างๆของผู้ป่วย ที่นอน,หมอน,ผ้าเช็ดตัว โดยการ แช่ในน้ำร้อนอย่างน้อย 5 นาที หรือ สามารถใช้เครื่องอบแห้งที่มีความร้อน 50 องศา ขึ้นไป 20 นาที
หากพบอาการของ โรคหิด ไม่มั่นใจ อยากปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ สามารถติดต่อกับพวกเรา บ้าน HG ได้ที่
LINE: @393wzwnq Facebook: บ้านHG care ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ